ทุกคนต่างรู้ดีว่า ไม่มีอะไรที่คงอยู่ตลอดไป ทุกอย่างล้วนมีวันจางหายและร่วงโรย ในเรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เช่นกัน ที่แม้ใครๆ จะอยากให้ความสวยงามและความดูดีอยู่กับเราไปตลอด แต่แน่นอนว่าแทบเป็นไปไม่ได้ กระนั้น ยังโชคดีที่ในปัจจุบันเรามีนวัตกรรมที่เป็นตัวช่วยสำคัญอันสามารถคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวและช่วยลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ โดยเรารู้จักกันดีในนามว่า “โบท็อกซ์”
โบท็อก เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยบนใบหน้าและผู้ที่ต้องการดูแลใบหน้าให้กระชับยิ่งขึ้น สามารถเริ่มฉีดโบท็อกได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร เพราะคอลลาเจนในร่างกายของเราก็จะลดน้อยลงไปตามธรรมชาติเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับเหมือนแต่ก่อน นอกจากอายุแล้วยังมีปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบ ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการใช้ชีวิต, ภาวะความเครียด, แสงแดดและมลภาวะรอบตัว ล้วนแต่ทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยฝังลึก ดังนั้นการฉีดตั้งแต่อายุยังน้อยจะช่วยชะลอริ้วรอยและป้องกันไม่ให้ผิวหย่อนคล้อยตามวัยได้มากกว่าผู้ที่ไม่เคยฉีดมาก่อน
โบท็อกซ์ (Botox) ที่เราคุ้นหูกันนั้น จริงๆ เป็นชื่อทางการค้าของสารโบทูลินั่มท็อกซินเอ (Botulinum toxin A) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สกัดจากแบคทีเรียชื่อว่า ครอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium Botulinum) มีฤทธิ์สกัดกั้นการทำงานของระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อเกิดการคลายตัวและทำงานได้ลดลงชั่วคราว
การ ฉีดโบท็อก ชลบุรี เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบันนี้ และเชื่อว่าหลายคนอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับการฉีดโบท็อก กรามหรือโบท็อก ริ้วรอยกันมาบ้าง โดยโบท็อก ยังสามารถใช้ฉีดได้อีกหลายบริเวณ ซึ่ง ควรรู้กันก่อนว่าโบท็อก ฉีดตรงไหนได้บ้าง แต่ละตำแหน่งควรใช้กี่ยูนิต แล้วมีบริเวณไหนที่ไม่ควรฉีดไหมเพื่อความปลอดภัย
ฉีดโบท็อก ชลบุรี ฉีดได้ ไม่น่ากลัว
ก่อนตัดสินใจ ฉีดโบท็อก ชลบุรี ควรพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อสอบถามหรือปรึกษาถึงการใช้เพื่อการแก้ปัญหาที่มี จะได้วางแผนการรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสมที่สุด นอกจากผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพแล้ว การใช้โบท็อก อย่างถูกต้องยังไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ แก่ร่างกาย แต่อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้เล็กน้อย เช่น
– ผิวบริเวณที่ฉีดอาจเกิดรอยแดง หรือจุดจ้ำเล็กๆ ซึ่งเกิดจากรอยเข็ม จุดดังกล่าวจะค่อยๆ เลือนหายไปได้เองภายใน 5-7 วัน
– ในรายที่มีอาการแพ้ อาจมีผื่นแดงและคันได้
– หน้าแข็งตึง ปากเบี้ยว หรือยิ้มไม่สุด อาจเพราะเกิดจากปริมาณโบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าไปไม่เหมาะสม
– หนังตาตก จะพบได้ในการฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยระหว่างคิ้ว ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใกล้เปลือกตาด้านบน ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหนังตาอ่อนแรงและตกลงมาได้
– ในบางกรณีที่ปริมาณโบท็อกซ์ไม่เหมาะสม หรือตำแหน่งที่ฉีดคลาดเคลื่อนไปจากตำแหน่งปกติ อาจพบอาการหนังตาตก ปากเบี้ยว หรือยิ้มไม่สุดได้ ซึ่งถ้ามีอาการดังกล่าว ให้รีบมาพบแพทย์ เพื่อวางแผนการแก้ไข